ในปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินจะทำหน้าที่ในการจัดการการเงิน และจะมีอยู่แทบทุกองค์กร ดัีงนั้นหน้าที่หลักๆ ของฝ่ายการเงินมีดังนี้คือ
1. พยากรณ์และวางแผนทางการเงิน โดยจะประสานงานกับฝ่ายต่างๆ ในบริษัทเพื่อวางแผนในอนาคตว่ากิจการจะดำเินินไปในทิศทางใด
2. ตัดสินใจลงทุนและจัดหาเงินทุน ซึ่งการเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทนั้นเป็นสิ่งจำเป็น จึงต้องมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวร ฝ่ายการเงินจะต้องตัดสินใจว่าจะลงทุนในสินทรัพย์ดังกล่าวมากน้อยอย่างไร จะจัดหาแำหล่งเงินทุนจากแำหล่งเงินทุนระยะสั้นหรือระยะยาว เพื่อให้กิจการได้รับประโยชน์สูงสุดในการจัดการการเงิน
3. ประสานงานและควบคุม โดยจะต้องประสานงานกับฝ่ายต่างๆ เช่น ฝ่ายขาย ฝ่ายผลิต เพราะการดำเนินงานของฝ่ายต่างๆ จะกระทบการการเงินเสมอ
4. การติดต่อกับตลาดทางการเงิน ซึ่งเป็นแำหล่งระดมทุน
5. การจัดการความเสี่ยง ความเสี่ยงที่ธุึรกิจต่างๆที่จะต้องเผชิญมีหลายประเภท เช่น ภัยธรรมชาติ อัตราแลกเปลี่ยน แต่ก็มีวิธีการป้องกันความเสี่ยงได้
ซึ่งนี่ก็เป็นหน้าที่หลักของฝ่ายการเงิน ซึ่่งโดยรวมและจะทำให้การจัดการการเงินของบริษัทมีประสิทธิภาพ และช่วยให้กิจการมีกำไรได้สูงสุด
Sunday, April 17, 2011
Friday, April 15, 2011
การจัดการการเงินในอดีตจนถึงปัจจุบัน
แนวความคิดเกี่ยวกับการจัดการการเงินในอดีตจนถึงปัจจุบันสรุปได้ดังนี้
1. ช่วงต้นทศวรรษ 1900s วิชาการเงินได้เิริ่มตั้งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง เรียกว่า ศาสตร์สาขาการเงิน โดยมุ่งเน้นเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ของการรวมกิจการ และคิดริเริ่มมีหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ออกจำหน่ายเพื่อระดมทุน
2. ช่วงทศวรรษ 1930s เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำของประเทศสหรัฐอเมริกา วิชาการเงินจึงมุ่งเน้นเรื่องการล้มละลาย การปรับปรุงองค์กร การจัดการสภาพคล่อง และการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์
3. ช่วงทศวรรษ 1940s - 1950s วิชาการเงินเริ่มเน้นทฤษฎีทางการเงิน มีแนวคิดเรื่องการสร้างมูลค่าสูงสุดให้กิจการและแนวความคิดนี้ยังคงใช้อยู่จนปัจจุบันนี้
4. ในทศวรรษที่ 21 ก็ยังคงให้ความสำคัญของการเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กิจการ แต่จะมีแนวความคิดเพิ่มขึ้นอีก 2 ประการ คือ
1. ช่วงต้นทศวรรษ 1900s วิชาการเงินได้เิริ่มตั้งเป็นศาสตร์แขนงหนึ่ง เรียกว่า ศาสตร์สาขาการเงิน โดยมุ่งเน้นเรื่องกฎระเบียบต่างๆ ของการรวมกิจการ และคิดริเริ่มมีหลักทรัพย์ประเภทต่างๆ ออกจำหน่ายเพื่อระดมทุน
2. ช่วงทศวรรษ 1930s เป็นช่วงเศรษฐกิจตกต่ำของประเทศสหรัฐอเมริกา วิชาการเงินจึงมุ่งเน้นเรื่องการล้มละลาย การปรับปรุงองค์กร การจัดการสภาพคล่อง และการกำหนดกฎระเบียบต่างๆ ของตลาดหลักทรัพย์
3. ช่วงทศวรรษ 1940s - 1950s วิชาการเงินเริ่มเน้นทฤษฎีทางการเงิน มีแนวคิดเรื่องการสร้างมูลค่าสูงสุดให้กิจการและแนวความคิดนี้ยังคงใช้อยู่จนปัจจุบันนี้
4. ในทศวรรษที่ 21 ก็ยังคงให้ความสำคัญของการเพิ่มมูลค่าสูงสุดให้กิจการ แต่จะมีแนวความคิดเพิ่มขึ้นอีก 2 ประการ คือ
- ธุรกิจในยุคโลกาภิวัฒน์
- การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เป็นการเปิดโอกาสในการทำกำไรเพิ่มขึ้นและลดความเสี่ยง
เรียนจบการเงิน ไปทำอะไร?
เมื่อเรียนจบการเงิน ไม่ต้องกลัวว่าจะตกงาน เพราะจบสาขานี้แล้วจะมีงานรองรับอยู่ในทุกๆบริษัท หรือทุกๆหน่วยงาน แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีอาชีพทางการเงินหรือไม่ต้องการจะมีอาชีพทางการเงินก็ควรจะต้องมีความรู้เกี่ยวกัีบการจัดการการเงินเพราะมีประโยชน์มากคือ
1. สามารถนำความรู้จากวิชานี้ไปช่วยตัดสินใจในเรื่องของตนเองได้ เ่ช่น กรณีถ้าเรามีเิงินเก็บอยู่จำนวนหนึ่ง ถ้านำไปฝากธนาคารก็จะได้รับดอกเบี้ยต่ำ (ไม่คุ้มกับอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น) เมื่อได้ศึกษาวิชานี่้แล้ว ก็มีความคิดในการนำเงินนี้ไปลงทุนในทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าการฝากเงินไว้กับธนาคาร
2. ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะทำงานด้านบัญชี การตลาด การผลิต ฯลฯ ต้องอาศัยความรู้ด้านการจัดการการเงินช่วยส่งเสริมในการตัดสินใจได้ดีทั้งสิ้น
การจัดการการเงิน
การจัดการการเงิน หรือ การเงินธุรกิจ เป็นงานที่มีขอบข่ายกว้าง และเป็นงานที่มีความสำคัญในธุรกิจทุกประเภท ทั้งธุรกิจที่เป็นสถาบันการเงิน อุตสาหกรรมต่างๆ การค้าส่ง การค้าปลีก โรงเรียน โรงพยาบาล แม้แต่หน่วยงานต่างๆ ของรัฐ
งานจัดการทางการเงิน จะมีตั้งแต่ การพิจารณาขยายโรงงาน เปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ การกำหนดนโยบายการขายเชื่อ การกำหนดปริมาณสินค้าคงเหลือที่เหมาะสม จำนวนเงินสดขั้นต่ำที่ควรมีไว้ในธุรกิจ การจัดหาเงินทุนโดยการออกจำหน่ายหลักทรัพย์ต่างๆ การรวมกิจการเข้าไว้ด้วยกัน
งานจัดการทางการเงิน จะมีตั้งแต่ การพิจารณาขยายโรงงาน เปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ การกำหนดนโยบายการขายเชื่อ การกำหนดปริมาณสินค้าคงเหลือที่เหมาะสม จำนวนเงินสดขั้นต่ำที่ควรมีไว้ในธุรกิจ การจัดหาเงินทุนโดยการออกจำหน่ายหลักทรัพย์ต่างๆ การรวมกิจการเข้าไว้ด้วยกัน
Subscribe to:
Posts (Atom)